ความสูญเสียเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ไม่ใช่แค่ธรรมชาติที่ทำให้เราต้องสูญเสียสิ่งที่เรารักไป
แต่มนุษย์เองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างความสูญเสียให้กับตัวเอง
เป็นหนังที่มีหลากหลายแง่มุมในเรื่องของครอบครัว
ดูแล้วทำให้รู้สึกว่าความรักจากครอบครัวนั้นมันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ
การสูญเสียครอบครัวไปจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สร้างความเศร้าได้อย่างมากมาย
แต่ก็ยังไม่เศร้าเท่ากับการที่คนในครอบครัวทำให้ต้องเหินห่างจากกัน
อาจเพราะความไม่เข้าใจกััน หรือเหตุผลต่างๆนานา
แต่ถึงจะเพราะอะไรก็ตามก็ล้วนแล้วแต่สร้างความทุกข์ความเศร้าใจ
ให้กับทุกๆคนในครอบครัวทั้งสิ้น
ตัวละครที่เป็นแม่ได้พูดเอาไว้ว่า
"ถ้าไม่เคยสูญเสีย ก็คงจะไม่รู้สึกถึงความสูญเสียนั้น"
แต่สำหรับเราแล้ว อย่ามีการสูญเสียเลยดีกว่า
ใช้ชีวิตที่มีอยู่ปัจจุบันให้มีค่า
อย่าให้เราต้องมาเสียใจในวันที่มันสายไป
เพียงเพราะความไม่เข้าใจกันที่มาปิดกั้นความรักที่่มีอยู่รอบตัว
เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่า
"เราจะต้องสูญเสียใครไปในวันใด"
ชอบความรักของคนรุ่นแม่ๆกับการที่จะรักคนๆเดียว
ก็คือสามีหรือภรรยาของตนไปตลอดชีวิต
แม้รู้ว่าไม่มีเขาอยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตาม
ทั้งตัวแม่เอง และความรักของพ่อบุญธรรม
ดูเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ ซื่อสัตย์ และแสนจริงใจ
เนื้อเรื่องเล่าได้อย่างบีบคั้นอารมณ์อยู่ตลอดเวลา
ภาพแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของทุกๆอย่างในเรื่อง
ทั้งในแง่ของตัวละคร สภาพบ้านเมือง สภาพสังคม
แต่ถึงแม้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปขนาดไหน
แต่ก็ยังมีสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือ...
ความรักที่แสนยิ่งใหญ่จากครอบครัว
และภาพเหตุการณ์อันโหดร้ายที่ฝังอยู่ภายในใจของตัวละคร
ถึงแม้ว่ากราฟฟิคต่างๆอาจยังทำไม่ค่อยดีนัก
ทำให้รู้สึกอารมณ์ติดขัดในฉากที่แผ่นดินไหวและตึกถล่ม
แต่สำหรับฉากอารมณ์...
เรื่องนี้เลือกที่จะใช้ภาพที่ออกไปในทางสีน้ำเงินเทาๆ
ที่ให้ความรู้สึกมัวหมองหมดหวัง
ทำให้ช่วยดึงอารมณ์ความเหงาความเศร้าออกมาจากตัวละครและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้นยังมีภาพของความยุ่งเหยิงวุ่นวายของเส้น
ที่เกิดจากซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน
บวกกับเม็ดฝนที่โปรยลงมาก็ยิ่งทำให้แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นดูน่าหดหูมากยิ่งขึ้นอีกด้วย